Thursday, December 22, 2016

ไทเป ..ฮืมม I can feel

ดองทริปมาเป็นเดือนแล้ว ได้เวลาเอาลงสักที ...

ทริปนี้หลังจาก เคว้งคว้างเหมือนเรืออับปางกลางสายฝน ...อยู่พักใหญ่ สุดท้าย โบว์ เพื่อนรักก็ได้เดินทางไปด้วย (ขอให้ขุ่นพ่อโบว์แข็งแรงไวไว)

ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะ...ได้บังเอิญไปกินชานมไต้หวันจากไม่เคยมี inspiration กับประเทศนี้ ..ก็เลยเกิดนิมิตทันใด

รวบรวมสมัครพรรคพวกได้ 4 คนเศษ สุดท้ายก็เหลือสองสาววับขบเผาะ

ออกเดินทางโดยสายการบิน EVA ซึ่งมันมีโปร แต่อย่างว่าชีวิตอีเย็นอย่างช้านมีรึจะได้ราคาถูกเหมือนชาวบ้าน ...ชีวิตอิชั้นมันมีกรรมสุดท้ายได้ราคาเกือบหมื่น หึหึ

ออกจากสุวรรณภูมิ คืนวันที่ 9 พฤศจิ วันพุธ ..ก่อนไปไม่ลืมช้อบช่วยชาติ ขณะที่นั่งอัพรูปอยู่นี้ คือเพิ่งเคลียร์หนี้บัตรเครดิตไปเมื่อวาน เห็นยอดแล้วถอนหายใจแพรพ..ทาสการตลาด คือตัวช้านเอง...นี่ตัวช้านผิดหรือไร ช้านต้องใช้หนี้กรรมให้ใคร

เดินทาง 02.15 ถึง 06.55 จริงๆบินแค่สามชั่วโมงเอง แต่เวลาที่โน่นเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง

...
Day 1 เริ่มไหว้พระขอคู่ เอ้ย++ขอพรที่วัดหลงซานกันก่อน จากนั้น ฮิปเตอร์ก็ต้องไป Art มิว โชคร้ายน้องฝนมาทักทายเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเหยียบพื้นดินไต้หวัน วันนี้เลยเจอกับน้องเค้าทั้งวัน...ยังตามไปตกที่ 1914 Huashan (ฮวาซาน )ปาร์คอีก หลบฝนในร้านกล่องดนตรีที่เลือกได้ละลานตา ดีนะต้องไปต่อ ซุนยัดเซ็น memmoral hall เลยได้มาแค่อันเดียว

ฝนซา ออกตัวไปตึกไทเป 101 signature วิวหมื่นล้าน เพราะค่าเข้าไม่ธรรมดา 600 NT ตอนนี้รู้สึกเหมือนก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ แถวสั้น แต่ช้านหิววววว ..กินเสร็จกลับโรงแรมนอนดีกว่า

Day 2 ตื่นแต่เช้า วันนี้เราจะไปสามพันโบกแห่งเมืองไต้หวันกัน หลังจาก หลงอยู่หลายเพลาก็ได้เจอที่จอดบัสสักที ...นั่งรถเวียนเขา ใครขี้เมาอย่าทน อมยาด่วน ..อิชั้นเองยังโคลงๆ ถึงเย่หลิ่ว ได้ถ่ายกับเศียรราชินีในตำนาน เสียดายด้านหลังเค้าไม่กันคนออก..แต่ประทับใจกับการไม่แซงคิว การเข้าแถวของคนไต้หวันมาก.ออกมาชิมหอยสัง กับไส้กรอกหมู ตามตามที่เค้ารีวิวกัน อืมม I can feel.

จากนี้ถ้าไปบัสอีกสองชั่วโมง กว่าจะถึงจิ๋วเฟิน เราแลกเงินมาเยอะ จับTaxi ไปกันกับคุณป้าชาวญ๊่ปุ่นอีกสามคน ซึ่งคุยกันด้วยภาษามือเท่านั้น ขาละ 1000 /5 คน 45 นาทีก็ถึงแล้ว อยู่ที่นี่จนดึกจนดื่น...และที่นี่เราก็เข้าใจสำนวนที่ว่าคบเด็กสร้างบ้าน เอิ่ม..เด็กน้อยทำป้าได้ลูก >< หนูหลอกป้าทำม้ายยย

Day 3 วันนี้ออกเดินทางไกลกันล่ะ ที่ขึ้นรถเหมือนใกล้แค่จมูกแต่เราก็ยังอ้อมโลกไปหลงจนได้ ...จากโรงแรมแค่ข้ามถนนก็ถึงแล้ว จั๊ดหง่าวว...ตกรถไปตามระเบียบ เอาเต๊อะ สุดท้ายก็ถึง Hualien (ฮวาเหลียน) คุยกับคุณลุงtaxi เหมาๆ ลุงพูดจีนเราพูดไทย แต่ก็ไปกันได้ ราคา 5 ชั่วโมง 2500 NT และแล้วก็เจอกับไท่ลู๋เก๋อ วันนี้ฟ้าแจ่มอากาศเป็นใจมาก ...ที่นี่แหละที่เราเจอคุณลุงอีกคนมาถามว่านี่คนไทยใช่มั้ย..ฮืม I can feel เอ๊ะ...จะใช้ช้าน imply ว่าไงทางดีหรือทางร้ายเนี่ย

ไปแช่น้ำพุเย็นเพียงสองแห่งของโลกกันคือที่นี่ กับอิตาลี เค้าว่างั้น..แต่ช้านก็แอบคิดว่าคลองสองน้ำก็น่าจะใช่น้า แล้วมาต่อเสี่ยวหลงเปา กัดแล้วน้ำเยิ้มตามตำนาน ในราคา ถ้วยละ 70 NT กับ 9 ชิ้น

เอ้าจะมืดแร้นจับรถไปนอนที่เจี๋ยวซี แหล่งออนเซ็นมีชื่อของไต้หวันกัน เค้าบอกว่ามาที่นี่ต้องกินผักที่รดด้วยน้ำแร่ กรอบและมีแร่ธาตุสูง น่าจะจริงพระน้ำพุร้อนไหลผ่านกลางเมืองแทบจะทุกบ้าน

กลางคืนออกมาลัลล้าตลาดกลางคืนสักนิด คึกคักผิดคาด มีโชว์ดนตรีคลาสสิค เข้ากับรสนิยมของพวกเรามากมาย

ที่นี่มีสปาปลาน้ำร้อน...แต่ไม่ได้ลองแช่เท้าแอบจุ่มมือ ฮืมม..น้องปลาหนูทนได้หรือลูก!!!

Day 4 ตื่นแต่เช้าไป พิพิธ หลานยางกัน ...เอ้ย!!อาคารจะจมน้ำแล้ว ที่นี่แดดจะแผดเผาไปถึงไหน

กลับมา Jimmy square ชาวไต้หวันที่เราติสต์ๆกันดีจริง

กลับไทเปนั่งยาวๆ ไปเป่ยโถวกัน กะว่าจะไป thermal valley แต่ระหว่างทางต้องผ่านโปเกม่อน พาร์ค..ฮื้อหือ หนุ่ม แก่ เข่าเสื่อม ลูกเล็กเล็กแดงเต็มพาร์ค เดินๆหยุด ๆ จากท่าทางใช่เลย...กำลังยิงโปเกมอน

ยังไม่จบบ...แม้จะล้าเต็มทีไป lover bridge กัน เอิ่ม..ได้ตั๋วยืน เมื่อยน่าดู หนทางก็นะ...จะไกลแสนไกลไปไหน 555

กลับมาแวะตลาดซื่อหลินหรือ กิมหยงเมืองหาด จากนั้นนั่งไปตลาด ซีเหมินดิง หรือสยามเมืองไทย หมดแรง..จริงร้านเค้าปิดหนีแล้วเลยต้องกลับโรงแรม ป้าป้าก็มีแรงเยอะนะจ้ะ

Day 5 ตอนแรกจิไปอู๋ไหล อยากได้วิวสะพานแดงตัดกับแม่น้ำสีฟ้ามรกต แต่ด้วยสังขารที่ร่วงโรย...ขอจึงกะไปปั๋นจักรเอาชีวิตไปทิ้งบนถนนกันดีกว่า ค่ะ ฟังไม่ผิด ปั่นไป หวาดเสียวหลังไป หันไปถามเพื่อนโบว์ว่าซื้อประกันมาแล้วใช่มั้ย...

แต่ก่อนไปขอเติมพลังด้วยของสดก่อน แต่คราวนี้กินบนบกได้ ไม่ต้องเอาไปกินที่อื่น เอ้ยไม่ใช่แระ เราเลือกไป ADD ตามรีวิว sushi bar ขั้นเทพ ...ไปก่อนเที่ยงแล้วน้า คิวยังยาวววว

ตัดกลับไปที่เอาชีวิตรอดมาได้จากความเอ็นดูของชายคนนึงที่ช่วยปั่นนำ ..สุดท้ายถึงกลางทาง เค้าหันมาบอกเราว่าทำไมไม่ไปรถไฟฟ้าล่ะ...แล้วเราก็โดนทิ้งไว้ที่กลางทาง..."ทำถูกแล้วที่เทอเลือกเค้า และทิ้งชั้นไว้กลางทาง ฮือๆ."

อ๊ะ ..จิ้งจกทักยังต้องคิดนี่คนทักนะ ..แล้วเราก็มีชีวิตที่ดีกว่าจริงๆด้วย ..555 ที่ Tamsui ดันสุ๋ย...ปั่นที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว จริงๆน่าจะนั่งรถไฟมาโลดแล้วมาปั่นที่นี่ ไม่ต้องขึ้น high way ไม่ต้องลอดอุโมงค์...อือ I can feel.

กลับโรงแรมมาเปลี้ย จับบัสไปสนามบิน เนื่องจากสถานีบัสเพียงแค่เอื้อมเท่านั้น เราเลยเผื่อเวลาเพียงเล็กน้อย ...เมื่อมาเจอแถวรอเท่านั้น โอ้วว...จอร์จ ตกเครื่องนี่เบิกประกันได้ชิมิ สิ่งที่ผุดในหัวตอนนั้น ..แต่แถวโฟลวว์เร็วมาก ชั่วอึดใจก็กลับมายืนอยู่ที่สนามบินเถาหยวน

เถาหยวน..คือสนามบินแห่งความติสต์ ทุก gate 1-10 จะมีธีมที่แตกต่างกันออกไป..คือรีบซื้อของฝาก จากนั้นวิ่งถ่ายรูปทุกเกท เล่นเอาเหงื่อแตก

อะเคร..หมดแรงข้าวต้มกลับไปเตรียมตัว นอนกันต่อคร้าบ...บ๊ายยบ

No comments:

Post a Comment